วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การใช้สื่อการสอนอย่างเป็นระบบ โดยใช้แบบจำลอง
The ASSURE Model 


             ในการวางแผนการใช้สื่อการสอน ผู้สอนควรจะมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การใช้สื่อบรรลุถึงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่วางไว้ การวางแผนอย่างเป็นระบบนี้ เราสามารถใช้รูปแบบจำลองที่เรียกว่า  " The ASSURE Model " ของไฮนิคและคณะ (Heinich and others 1999) ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

A nalyze Leaner Characteristics
การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน
S tate Objectives
การกำหนดวัตถุประสงค์
S elect, Modify, of Design Materials
การเลือก ดัดแปลง หรือออกแบบสื่อใหม่
U tilize Materials
การใช้สื่อ
R equire Learner Response
การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน
E valuation
การประเมิน

การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน ( Analyze Leaner Characteristics )

       การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน ทำให้ผู้สอนได้ทราบลักษณะทั่วไปและลักษณะเฉพาะของผู้เรียนเพื่อที่ผู้สอนจะได้เลือกใช้สื่อการเรียนการสอนได้เหมาะสมกับผู้เรียนและบรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน

  •         ลักษณะทั่วไป ได้แก่ อายุ ระดับความรู้ เศรษฐกิจและวัฒนธรรม ของผู้เรียนแต่ละคน ซึ่งลักษณะทั่วไปจะช่วยให้ผู้สอนสามารถเลือกระดับของบทเรียนและตัวอย่างของเนื้อหาให้เหมาะสมกับผู้เรียนได้
  •         ลักษณะเฉพาะ ของผู้เรียนแต่ละคน มีส่วนสำคัญโดยตรงกับเนื้อหาบทเรียนตลอดจนสื่อการสอนและวิธีการที่จะนำมาใช้ในการสอน โดยสิ่งที่ต้องนำมาวิเคราะห์ได้แก่ พื้นฐาน ความรู้ของผู้เรียนดูว่าผู้เรียนมีความชำนาญในทักษะที่สอนนั้นมาก่อนหรือไม่  เพื่อจะได้สอนให้ตรงกับจุดมุ่งหมายที่วางไว้ , ทักษะทางด้านภาษา การอ่านเขียน การคำนวณ เป็นต้น และทัศนคติต่อวิชาที่จะเรียน   
                         การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในการเลือกสื่อที่เหมาะสมได้ เช่น ผู้เรียนมีทักษะในการอ่านต่ำกว่าเกณฑ์ก็สามารถช่วยได้ด้วยการใช้สื่อประเภทที่ไม่ใช่สื่อสิ่งพิมพ์  การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียนอาจทำได้ด้วยการสนทนากับผู้เรียนหรือผู้ร่วมชั้นอื่น ๆ หรืออาจมีการทดสอบก่อนเรียนเพื่อดูพื้นฐานของผู้เรียนก็ได้



การกำหนดวัตถุประสงค์ ( State Objectives )
   

                      ในการกำหนดวัตถุประสงค์ควรเป็นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เพื่อให้สามารถเลือกใช้วิธีการสอนและสื่อการเรียนการสอนได้เหมาะสม การกำหนดวัตถุประสงค์เป็น "วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม" แบ่งออกเป็น
   

             1. พุทธิพิสัย เป็นวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เพื่อวัดการเรียนรู้ของผู้เรียนเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ สติปัญญา และการพัฒนา
             2. จิตพิสัย เป็นวัตถุประสงค์ทางด้านความคิด ทัศนคติ ความรู้สึก ค่านิยมและการเสริมสร้างทางปัญญา
             3. ทักษะพิสัย เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการกระทำ การแสดงออกหรือการปฏิบัติ


                       การกำหนดวัตถุประสงค์ในการเรียนการสอนนั้นเพื่อผู้เรียนจะได้ทราบว่าจะสามารถเรียนรู้หรือกระทำใดได้บ้าง , เลือกสื่อและวิธีการได้ถูกต้อง , ช่วยในการประเมินผู้เรียนได้ว่าผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่

          การเลือก ดัดแปลง หรือออกแบบสื่อ ( Select, Modify, of Design Materials )

                         การที่จะมีสื่อที่เหมาะสมในการเรียนการสอน สามารถทำได้ 3 วิธี คือ

             1. เลือกจากสื่อที่มีอยู่แล้ว มีเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี้
                   1) ลักษณะผู้เรียน                                                 2) วัตถุประสงค์การเรียนการสอน
                   3) เทคนิคหรือวิธีการเรียนการสอน                 4) สภาพการณ์และข้อจำกัดในการใช้สื่อแต่ละชนิด
             2. ดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้วให้ใช้ได้ดีและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
             3. การออกแบบสื่อใหม่ 
      หลังจากที่เราออกแบบสื่อแล้วแล้วนำมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน ก็ควรมีการวัดผลของสื่อ เป็นการวัดประสิทธิภาพของสื่อ ความคุ้มค่าของสื่อต่อผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ วัดเพื่อปรับปรุงสื่อ วัดผลถึงระยะเวลาที่ในการนำเสนอสื่อว่าพอเหมาะหรือมากเกินความจำเป็น การวัดผลสื่อนี้เพื่อผลในการใช้ดัดแปลงปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต เราสามารถที่จะนำเอาผลการอภิปรายในชั้นเรียน การสัมภาษณ์ และการสังเกตผู้เรียนมาใช้เป็นแนวทางในการวัดผลสื่อได้

                                        


          การใช้สื่อ ( Utilize Materials )  

                               เป็นขั้นตอนของการกระทำจริงซึ่งผู้สอนต้องดำเนินการดังนี้

                1. ดูหรืออ่านเนื้อหาในสื่อเหล่านั้นก่อนเป็นการเตรียมตัว : ต้องมีการตรวจสอบเนื้อหาว่าตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และทดลองใช้ดูว่ามีปัญหาหรือไม่ ถ้ามีจะได้แก้ไขปรับปรุงได้ทัน
               2.
เตรียมสภาพแวดล้อม / จัดเตรียมสถานที่   เพื่อความสะดวกเรียบร้อยก่อนการสอน และทดลองอุปกรณ์ที่จะใช้ก่อนว่าใช้ได้ดีหรือไม่
               3. เตรียมตัวผู้เรียน โดยการใช้สื่อนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการแนะนำก่อนล่วงหน้าและเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียน
   
               4. การนำเสนอ / ควบคุมชั้นเรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนใจในสื่อที่นำเสนอนั้น

         การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน ( Require Learner Response )   

               การตอบสนองของผู้เรียนจะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับลักษณะของสื่อที่นำมาใช้ ว่าเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากอย่างไร นอกจากนี้ผู้เรียนสามารถมีการตอบสนองโดยเปิดเผย ( overt respone ) โดยการพูดหรือเขียน และการตอบสนองภายในตัวผู้เรียน ( covert response ) โดยการท่องจำหรือคิดในใจ และเมื่อผู้เรียนมีการตอบสนองผู้สอนควรให้การเสริมแรงทันที เพื่อให้ผู้เรียนทราบว่าตนมีความเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ที่ถูกต้องหรือไม่ การเรียนการสอนโดยการให้ทำแบบฝึกหัด การตอบคำถาม การอภิปราย หรือการใช้บทเรียนแบบโปรแกรม เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีการตอบสนองและได้รับการเสริมแรงระหว่างการเรียนได้เป็นอย่างดี


        การประเมิน ( Evaluation )

               การประเมินสามารถกระทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ
           1. การประเมินกระบวนการสอน เพื่อประเมินว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้หรือไม่ ทั้งด้านผู้สอน สื่อการสอน และวิธีการสอน ซึ่งการประเมินจะทำได้ทั้งในระยะก่อน ระหว่าง และหลังการสอน
          2. การประเมินความสำเร็จของผู้เรียน ขึ้นกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ว่ามีเกณฑ์เท่าใด การวัดผลอาจทำได้ด้วยการทดสอบ การสอบปากเปล่า หรือดูจากผลงานของผู้เรียน สิ่งสำคัญที่จะทราบได้ว่าผู้เรียนมีสัมฤทธิผลทางการเรียนมากน้อยเท่าใด คือ สังเกตจากการปฏิบัติและการแสดงออกของผู้เรียน
         3. การประเมินสื่อและวิธีการสอน โดยการให้ผู้เรียนมีการอภิปรายและวิจารณ์การใช้สื่อและเทคนิควิธีการสอนว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงใด


ตัวอย่างการวิเคราะห์และการออกแบบการใช้สื่อตามหลักของ ASSURE Model


             กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์                                                       ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3     
  
             เรื่อง ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ 

               สาระสำคัญ    สิ่งแวดล้อม มีผลต่อสุขภาพของคนเรา ดังนั้นคนเราจึงต้องดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดไป

         การวิเคราะห์ลักษณะผู้เรียน ( Analyze Leaner Characteristics )

                     
                         โรงเรียนห้วยนาง(ชื่อสมมติ) เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ในจังหวัดตรัง สอนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 นักเรียนยังไม่มีความสนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม และยังไม่มีความรู้ต่อสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตที่ดีพอ ดังนั้นจำเป็นที่ต้องมีการปูพื้นฐานเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ผลต่อการดำรงชีวิตให้กับนักเรียนแต่ละคน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


  • ลักษณะทั่วไป   :    ผู้เรียนอยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นวัยที่สนใจในการทำกิจกรรมมากกว่าการเรียนในห้องเรียน ดังนั้นถ้าได้รับความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวและรู้จักวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการปฏิบัติจริงจะได้ผลดีกว่า

  • ลักษณะเฉพาะ  :   -  ทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับความรู้ และความสำคัญของสิ่งแวดล้อม                                                                                          -  เข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ                                                                                                                              -  ทัศนคติของผู้เรียนต่อวิธีปฏิบัติตนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

         การกำหนดวัตถุประสงค์ ( State Objectives )    

                      ด้านพุทธพิสัย
                 -  ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
                 -  ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม
                 -  ผู้เรียนมีความรู้และความเข้าใจต่อสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ
                      ด้านจิตพิสัย
                 -  ผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาเรียน                                    -  ผู้เรียนมีทักษะการสำรวจตรวจสอบสิ่งแวดล้อม
                 -  ผู้เรียนมีทักษะการคิดประยุกต์ใช้ความรู้ การคิดสร้างสรรค์
                 -  ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการคิด กระบวนการเรียนรู้โดยการค้นพบต่อสิ่งที่เรียนรู้ได้
                 -  ผู้เรียนมีจิตสาธารณะ ให้ความร่วมมือในการทำงาน สนใจใฝ่รู้และใช้สิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม                                           ด้านทักษะพิสัย
                  -  ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
                  -  ผู้เรียนสามารถบอกปัญหาและสาเหตุของสิ่งแวดล้อมที่มีต่อสุขภาพได้
                  -  ผู้เรียนมีทักษะในการปฏิบัติตนเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมได้

         การเลือก ดัดแปลงหรือออกแบบสื่อใหม่ ( Select, Modify, of Design Materials )


  •    การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้ว
        -  หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์                      - แผ่นใสและเครื่องฉายแผ่นใส
        -  เครื่องฉายโปรเจคเตอร์
            สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ
        -  การอภิปรายกลุ่ม                                             -  การฝึกปฏิบัติ
        -  เนื้อเพลงเศษขยะ                                            -  สภาพแวดล้อมของสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียน

  •      การปรับปรุง หรือดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้ว
                             นำเนื้อหาการสอนมาโยงความสัมพันธ์เพื่อง่ายต่อการเข้าใจ นำโน๊ตบุ๊ค เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ในห้องเรียนเพื่อฉายเนื้อหาบทเรียนให้ผู้เรียนได้ดูและอธิบาย จะทำให้ผู้เรียนสนใจมากกว่าการอธิบายตามหนังสือ

  •       การออกแบบสื่อใหม่
                         สรุปเนื้อหาเรื่อง ความสำคัญของสิ่งแวดล้อมนำเสนอแบบสื่อสไลด์ Power point ที่มีทั้งภาพ สี เสียง เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน แล้วใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ในห้องเรียนเพื่อฉายให้ผู้เรียนได้ดู เข้าใจอย่างทั่วถึงและชัดเจน อีกทั้งพิมพ์ออกมาแจกให้ผู้เรียนด้วย

          การใช้สื่อ ( Utilize Materials ) 


                          -  ดูหรืออ่านเนื้อหาของสื่อ
                          -  ก่อนที่จะสอนนำเข้าบทเรียน แนะนำบทเรียนที่จะสอนเบื้องต้น เพื่อเชื่อมโยงไปยังบทเรียนที่จะสอนใน                   คาบนี้แก่ผู้เรียนเพื่อเตรียมพร้อม
                          -  การนำเสนอ / ควบคุมชั้นเรียน

         การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน ( Require Learner Response )


                    ในการสอนแต่ละครั้งผู้สอนจะมีกิจกรรมเสริมเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาด้วยตนเองอยู่เสมอ เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด ผู้สอนก็จะต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแต่ละคนว่าคนใดที่มีความเข้าใจในบทเรียนและคนใดที่ยังไม่เข้าใจอยู่ก็พยายามเสริมอีกทางหนึ่งด้วย


         การประเมิน ( Evaluation )


  •      การประเมินผลกระบวนการเรียนการสอน   
                            ผู้สอนจะประเมินจากแบบทดสอบและการสังเกตความสนใจของผู้เรียนว่ามีความสนใจ ตั้งใจ ใฝ่เรียนใฝ่รู้ มีวินัยในตนเอง มีจิตสาธารณะ และเห็นคุณค่าของวิชาการบัญชีชั้นกลาง 1 เพียงใด

  •      การประเมินสื่อและวิธีการสอน
                           เพื่อให้ทราบว่าสื่อและวิธีการสอนที่ใช้มีประมิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ ช่วยให้ผู้สอนมีผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นหรือไม่ การประเมินผลสื่อการเรียนการสอนควรให้ครอบคลุม ด้านความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนการสอน ด้านคุณภาพของสื่อ เช่น ขนาด รูปร่าง สี ความชัดเจนของสื่อ ที่ใช้สอน

  •       การประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน 
                   - จากการปฏิบัติตนในการรักษาสิ่งแวดล้อม
                            - จากการทำแบบฝึกหัด


   จากรูปแบบจำลอง The ASSURE model จะเน้นถึงการวางแผนการใช้สื่ออย่างเป็นระบบในสภาพของห้องเรียนจริง เพื่อให้ผู้สอนสามารถนำรูปแบบจำลองนี้ มาใช้วางแผนการสอนได้อย่างมีประสิทธิผล    ถ้าหากผู้สอนสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการได้ถูกต้องทุกขั้นตอนจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
  แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบ ASSURE Model หากพิจารณาแล้ว จะเห็นว่าเป็นรูปแบบจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการเรียนการสอนเน้นการเรียนรู้ของรายบุคล เนื่องจากเน้นการจัดเตรียมสื่อหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองผู้เรียนที่ผู้สอนได้วิเคราะห์แล้วว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร อีกทั้งเน้นการมีส่วนร่วมและการมีปฏิสัมพันธ์ในกิจกรรมการเรียนการสอน ทั้งนี้โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน และการวัดผลการเรียนการสอน เน้นการวัดผลทั้งกระบวนการเรียนการสอนว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือไม่ ไม่ได้เน้นมุ่งการวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างเดียว